Ling Qi 6
วันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็จบไปแล้วกับ Ling Qi 6 
คอร์สในซีรีส์ Ling Qi นี่สอนกันต่อเนื่องมาแล้ว 21 วันในห้องเรียน และกับอีก 6 เดือนที่ไปฝึก ทำการบ้าน และปรึกษาทางออนไลน์ (คอร์ส Ling Qi 1 เริ่มตอนตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม)
จนถึงตอนนี้เหลืออยู่ 20 ชีวิตที่ร่วมเดินทางกันมาตั้งแต่ช่วงโควิด
ซีรีส์ Ling Qi นี่จุดประสงค์ในการสอนเปลี่ยนไปจากตอนแรกที่เริ่มสอนเป็นอย่างมาก ในตอนแรกเกิดจากช่วงโควิดที่ต้องอยู่บ้านกันนานเลยตัดสินใจเปิดคอร์ส Beyond Reiki ซึ่งเน้นไปที่การปรับจูน (Attune) พลังงานต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากเรกิ แต่เป็นที่นิยมในโลกนี้
ด้วยนักเรียนติดใจก็เลยตัดสินใจเปิดคอร์ส Beyond Ling Qi I ซึ่งตอนแรกวางแผนแค่ว่าจะสอนเทคนิคอย่างอื่นที่จำเป็นอย่างมาก และถือเป็นสาระสำคัญสำคัญที่จะทำให้การพัฒนาทางพลังงานและจิตวิญญาณสามารถพัฒนาไปต่อได้ เช่นเทคนิคต่าง ๆ ของชี่กง เป็นต้น
ต่อมาก็วางแผนว่าเป็นการสอนเพื่อเตรียมพร้อมในการเรียนคอร์ส วิถีฟ้าลี้ลับ · ม่วงวิจิตร (玄天法・紫微) ซึ่งก็วางแผนไว้ว่าถึง Ling Qi 3 น่าจะพร้อมเรียนแล้ว
--------------------------------------------------
หลังจากเริ่มสอน Ling Qi 2 ได้คุยกับคนเรียน คนเรียนก็อยากให้ซีรีส์นี้ไปต่อ เนื่องจากเทคนิคหลายอย่างเป็นการแสดงเรื่องพลังงานออกมาเป็นรูปธรรมทางกายภาพให้เห็นว่าพลังงานแต่ละอย่างมีคุณสมบัติอย่างไร ทำให้ผู้เรียนตระหนักถึงความจริงหลายอย่างที่เคยเข้าใจผิดมาก่อน โดยเฉพาะความเข้าใจผิดต่าง ๆ ที่เกิดจากการที่เคยอ่านมาจากเพจต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ต
ส่วนเวลาเรียนก็ขยายจากแต่เดิม 2 วันที่วางแผนไว้ ไปเป็น 4 วัน เนื่องจากเนื้อหาที่เตรียมมามีมากเกินกว่าจะสอนหมดภายใน 2 วัน อีกทั้งผู้เรียนก็ต้องเวลาในการทำเวิร์กชอปอีกด้วย ไป ๆ มา ๆ เลยกลายเป็นคอร์สที่ค่อนข้างเข้มข้นอย่างมาก สอนกัน 4 วันยังแทบเวลาไม่พอ (และหลังจากนั้น Ling Qi ก็สอน 4 วันมาตลอดเลย)
ใน Ling Qi 3 ก็เลยมีการเปลี่ยนธีม (Theme) การเรียนไปอย่างมากเป็นการพยายามพิสูจน์เรื่องต่าง ๆ ทางพลังงานและการพัฒนาจิตวิญญาณ ว่าจริง ๆ แล้วเป็นอย่างไร อะไรคือความเข้าใจผิด อะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง โดยพิสูจน์ออกมาเป็นรูปธรรมทางกายภาพ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ชื่นชอบของผู้เรียนเป็นอย่างมาก รวมถึงสร้างความช็อกให้กับคนเรียนหลายเรื่องว่า ที่เคยเข้าใจจากการอ่านเจอในเพจต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มันผิดไปจากความจริงที่พิสูจน์ได้อย่างมาก
ใน Ling Qi 4 เราก็ยังคงธีมเดิม โดยพิสูจน์ให้หนักขึ้นไปในหลาย ๆ ด้าน หลาย ๆ ความเชื่อไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำมันหอมระเหย คริสตัล เครื่องราง ของขลัง ทำให้เลยไปถึงการพิสูจน์วิชาต่าง ๆ ไปจนถึงการตรวจสอบว่าผู้สอนวิชาต่าง ๆ หรือปลุกเสกของต่าง ๆ เป็นอย่างไร คนสอนแต่ละคนฝึกถึงแค่ไหนแล้ว ผู้ปลุกเสกของขลังต่าง ๆ มีสภาพจิตเป็นอย่างไร อาจารย์แต่ละคนแท้จริงแล้วเป็นสายไหนกันแน่ สายปีศาจ สายผี สายเอนเจิล สายพลังเบื้องบน สายพลังจิต หรือสายไหนกันแน่
Ling Qi 5 แม้ว่าจะยังเป็นธีมเดิม แต่ก็เปลี่ยนจุดประสงค์ไปเล็กน้อยเป็นเราจะอยู่รอดอย่างปลอดภัยในโลกอันโหดร้ายนี่ได้อย่างไร เราจะป้องกันตัวเองจากพลังงานลบต่าง ๆ จากวิชามั่ว ๆ ได้อย่างไร จนสุดท้ายไปถึงจะเป็นตัวของตัวเองโดยไม่โดนอิทธิพลของสังคมและสภาพแวดล้อมเราได้อย่างไร
--------------------------------------------------
มาถึง Ling Qi 6 ที่พึ่งจบไป แม้ว่าธีมจะเป็นเช่นเดิมคือทำอย่างไรให้แสดงและพิสูจน์เรื่องพลังงานและจิตวิญญาณออกมาเป็นรูปธรรมและการแสดงผมทางกายภาพได้
แต่เป้าหมายก็เปลี่ยนไปจากเดิมจะเรียกว่าเป็นคนละคอร์สกับที่ตั้งใจตอนแรกก็ว่าได้ โดยใน Ling Qi 6 จะเป็นว่าเราจะหลอมรวมวิชาต่าง ๆ ตั้งแต่อดีตที่เรียนมาเพื่อไปเชื่อมกับโซล (Soul) ของเราได้อย่างไร โดยรู้สถานะว่าตอนนี้เราอยู่ขั้นไหนอย่างเป็นรูปธรรมวัดได้ออกมาทางกายภาพ
ซึ่งในรอบนี้ก็ได้เอาเพนดูลัมมาใช้เพื่อเพิ่มความไวในการตรวจสอบและทดสอบต่าง ๆ ในจุดที่การทดสอบด้วยวิธีทางกายภาพอื่นไม่สามารถทดสอบได้ เช่น เราจะทดสอบพลังงานของอวัยวะที่อยู่ลึกในร่างกาย ที่เป็นจุดเล็ก ๆ อย่างเช่นต่อมพิทูอิทารี (Pituitary Gland) ซึ่งอยู่กลางสมองของเรา ได้ยากมากด้วยวิธีปกติ แต่ด้วยวิธีพิเศษที่พัฒนามาก็ทำให้การทดสอบพลังงานต่าง ๆ ของจุดเหล่านี้ทำได้อย่างง่ายกว่าเดิมมาก รวมถึงจุดเฉพาะต่าง ๆ ที่ไม่มีทางกายภาพ เช่น จักระ, ตันเถียน, จักระนอกร่างกาย เป็นต้น
นอกจากนี้ผมยังได้พัฒนาวิธีการนำเพนดูลัมมาช่วยรักษา ล้างพลัง ช่วยพัฒนาทางพลังงาน และ พัฒนาทางจิตวิญญาณ ซึ่งทำให้การพัฒนาสิ่งเหล่านี้เป็นไปอย่างก้าวกระโดดอย่างมาก จนตอนนี้ผู้เรียนติดใจกันอย่างมาก ข้อเสียอย่างเดียวคือหลายคนบอกว่าเมื่อยไปหน่อย
แถมโบนัสด้วยการนำเพนดูลัมมาใช้กับเฟิงสุ่ย (ฮวงจุ้ย) อย่างที่เห็นผลทันทีที่ปรับ ณ ตอนนั้นเลย ไม่ต้องเสียเวลารอเป็นวัน เป็นเดือน ถึงจะเห็นผล เพราะว่าเป็นการเข้าถึงแหล่งพลังงานที่เกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการโดยตรงด้วยตัวของเราเอง ไม่ได้เป็นการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมแล้วค่อยคอยให้สภาพแวดล้อมบังคับให้พลังงานของสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป แล้วจากนั้นพลังงานของสภาพแวดล้อมค่อยมามีผลกับเราอีกที
แย้มอีกนิด จริง ๆ แล้ว เราจะปรับดวง ดูดวง โดยใช้วิธีทางพลังงานก็ทำได้ง่ายมากโดยไม่จำเป็นต้องเรียนดวงจีนมาเลยก็ได้ (หรือเราเรียนปาจื้อมาเพื่อให้รู้ว่า วิธีการปรับทางพลังงานพวกนี้มันถูกต้องจริงไหมเมื่อเรานำไปเทียบกับวิชาปาจื้อของเรา)
หรือแม้แต่อี้จิง เราก็สามารถใช้งานมันได้อย่างเห็นผลทันทีด้วยวิธีทางพลังงาน ไม่ต้องอาศัยการเสี่ยงทายอะไรแบบที่คนอื่นทำ
--------------------------------------------------
ซีรีส์ Ling Qi จะกลับมาอีกทีใน Ling Qi 7 ก็ตอนเดือนกันยายนโน้นเลย (อีกเกือบ 3 เดือน) เนื่องจากช่วงนี้ต้องเตรียมตอนคอร์ส Oneness with Unconcious ที่จะสอนช่วงปลายเดือนหน้า แม้ว่าจะเป็นคนละซีรีส์กับ Ling Qi แต่ว่าเนื้อหาคงเปลี่ยนไปสอดคล้องกับ Ling Qi 6 แต่เป็นในมุมมองด้านจิตใจ และวิธีแก้ไขก็ใช้วิธีทางจิตวิทยาและฮิปโนเป็นหลัก
แถมด้วยตอนนี้คอร์ส Oneness with Unconcious คนที่สมัครเรียนก็มีแต่คนที่เรียนเรกิมากับผม, อ.แอน หรือ อ.เบลล่า ดังนั้นตอนนี้เลยปรับเนื้อหาให้เป็น ฮิปโน + เพนดูลัม + พลังงาน + พัฒนาจิตวิญญาณ ไปเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งมั่นใจได้แน่นอนอยู่อย่างหนึ่งว่า ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครแน่นอน เพราะว่าจะไปหาคอร์สไหนที่นักเรียนมีพื้นฐานทั้ง 4 เรื่องนี้อยู่แล้วมาเรียนพร้อมกันทั้งห้องได้ จริงไหมครับ
ตอนนี้ซีรีส์ Ling Qi วางแผนแบบชัดเจนได้จนถึง Ling Qi 9 หลังจากนั้นไปยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะมีเนื้อหาอะไร แต่ถ้าเอาจริง ๆ คงสอนได้ถึง Ling Qi 20 ได้ไม่ยากมากจากที่ลองนับ ๆ ดู
ตอนนี้เลยมีแผนการว่าจะสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการสอนให้ถึง Ling Qi 20 ให้ได้ อย่างน้อยก็จะได้เป็นคอร์สที่มีจำนวนขั้นมากที่สุดในโลกวิชาหนึ่ง 555
ไม่รู้ว่าถ้าถึง Ling Qi 20 แล้วจะไปไหนกันแล้ว 
