Zoom the image with the mouse

คอร์ส Quantum Test™ แบบ Video Online

Course
11,900.00 ฿
11,900.00 ฿
Tags: / /

คอร์ส Quantum Test™

ผมมั่นใจว่าทุกคนที่อ่านเพจนี้มีคำถามนี้อยู่ในใจ
  -  ของขลังนี้เข้ากับเราไหม ?
  -  นั่งทำงานหันหน้าทางไหนดี ?
  -  สีไหนเข้ากับเรากันแน่ ?
  -  กระเป๋าไหนเสริมทรัพย์เรากันแน่ ?
  -  อาหารเสริมนี้เรากินดีไหม ?
จริงไหมครับ ?
รวมถึงคำถามอย่าง ที่เราไม่ทันคิดอย่าง...
  -  เครื่องดื่มไหนเหมาะกับเรา ?
  -  น้ำดื่มยี้ห้อไหนเหมาะกับเรา ?
  -  น้ำตาลแบบไหนเหมาะกับเรา ?
ข่าวดีก็คือ คุณสามารถทดสอบเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเองได้ด้วยวิธีการที่อยู่ในคอร์ส Quantum Test™ นี้

พิเศษ!!! สมัครคอร์ส Quantum Test™ แบบ VIDEO ONLINE ราคา 11,900 บาท ตอนนี้

ได้รับสิทธิ์เรียนเข้าเรียนแบบ VIDEO ONLINE พร้อมยันต์มูลค่า 27,000 บาท 

  -  ยันต์ผ้าขนาด 30×30 ซม. มังกรทองต้นกำเนิด มูลค่า 25,000 บาท
  -  แผ่นอะคริลิคขนาด 15×15 ซม. มังกรทองต้นกำเนิด มูลค่า 2,000 บาท

รายละเอียดคอร์สแบบ VIDEO ONLINE

  • คอร์สนี้เป็นคอร์สเรียนผ่าน VIDEO ONLINE ที่อาจารย์ถ่ายเตรียมไว้แล้ว
  • โดยจะเป็น VIDEO ของการสอนภายในคลาส และมีการถามตอบกับนักเรียน
  • แต่สำหรับคอร์สออนไลน์ อาจารย์จะไม่มาตอบคำถามให้
  • โดย 1 คอร์ส จะเป็นการถ่าย VIDEO จากคลาสเรียนจำนวน 2 วัน
  • ตั้งแต่เวลา 10:00 - 18:00 โดยประมาณ
  • จะสามารถรับชมได้ทางช่องทาง Facebook Group
  • และเนื่องจากเป็นคอร์สออนไลน์ จึงสามารถเปิดดูตอนไหนก็ได้ และสามารถเปิดดูหลายรอบได้

เนื้อหาภายในคอร์ส Quantum Test™

ก่อนจะทดสอบเราต้องเข้าใจเรื่อง พลังงานละเอียด (Subtle Energy) กันเสียก่อน พลังงานละเอียดนี้เป็นพลังงานในรูปแบบหนึ่งที่มีความละเอียดอ่อน เบาบาง เกินกว่าที่เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันจะสามารถตรวจสอบและวัดได้ แต่เราสามารถรับรู้ได้ด้วยร่างกายของเราเอง โดยเฉพาะผู้ที่ฝึกมาเพื่อการรับรู้พลังงานพวกนี้โดยตรง
⁣⁣⁣พลังงานละเอียดนี้มีหลากหลายชื่อเรียกไปตามวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น คนจีนเรียกว่า ชี่ (氣, qì), คนอินเดียเรียก ปราณะ/ปราณ (प्राण, prāṇa, ปฺราณ) ชาวพอลินีเซีย เช่น ฮาวาย, ตาฮิติ เรียกมันว่า มานา (Mana, mă'-na) คนญี่ปุ่นเรียกว่า คิ/กิ (気, ki) ตะวันตกเรียก แทคีออน (Tachyon) เป็นต้น
⁣⁣⁣พลังงานละเอียดเหล่านี้จะเรียกว่าพลังชีวิตของเราก็ได้ เนื่องจากคุณภาพของพลังงานเหล่านี้ส่งผลกับสุขภาพ อารมณ์ และความคิดของเราโดยตรง เช่น ถ้าเราอยู่ในสถานที่ที่พลังงานละเอียดหรือพลังงานชีวิตที่มีคุณภาพที่ดี คุณก็จะสุขภาพดี อารมณ์ดี ความคิดดี ในทางกลับกันถ้าคุณอยู่ในสถานที่ที่คุณภาพของพลังงานชีวิตไม่ดี สกปรก ก็จะทำให้สุขภาพแย่ลง อารมณ์ต่ำลง มีความคิดเป็นลบอยู่เรื่อย ๆ
⁣⁣⁣ซึ่งปราชญ์ในวัฒนธรรมต่าง ๆ ก็หาทางฝึกฝน ใช้ และบริหารจัดการกับพลังงานละเอียดเหล่านี้กันทุกวัฒนธรรม เช่น คนจีนก็จะมีชี่กง เพื่อจัดการกับพลังงานละเอียดในร่างกายของเรา และมีเฟิงสุ่ย (ฮวงจุ้ย) เพื่อจัดการกับพลังงานละเอียดของสถานที่, คนอินเดียก็มีโยคะ สำหรับจัดการกับพลังงานละเอียดของตัวเอง และมี วาสตุศาสตร์ (বাস্তুশাস্ত্র, vāstu śāstra) จัดการพลังงานละเอียดของสถานที่, ฮาวาย ก็มีฮูนา (Huna) เพื่อจัดการกับพลังงานละเอียดของตัวเอง เป็นต้น
⁣⁣⁣ลองนึกถึงของขลัง ยันต์ ฮู้ ต่าง ๆ หรือ เฟิงสุ่ย ทั้งหลาย, คุณคิดว่าทำไมมันส่งผลต่อโชคชะตาและชีวิตของเราได้? ก็เพราะว่ามันมีพลังงานพวกนี้อยู่ และ พลังงานพวกนี้มันก็ส่งอิทธิผลต่อผู้ที่พกมัน หรือ อยู่ใกล้มัน, ถูกไหมครับ?
ถ้าของขลังต่าง ๆ ไม่มีพลังงานพวกนี้แล้ว มันก็ไม่ต่างกับก้อนดินธรรมดา ผ้าธรรมดา หรือก้อนโลหะธรรมดา, ดังนั้นพลังงานเฉพาะที่อยู่ของขลังเหล่านี้ที่เป็นตัวที่สำคัญ แล้วที่เราใช้ของขลังหรือจัดเฟิงสุ่ยกันก็เพราะเราต้องการให้พลังงานเหล่านี้มาเสริมตัวเรา, จริงไหมครับ?
แล้วคุณจะรู้ได้ยังไง ว่าของขลังคุณมันมีพลังงานไหม หรือเป็นแค่การหลอกขาย ผ้าเปล่า ๆ ก้อนดินเปล่า ๆ ก้อนโลหะเปล่า ๆ ให้คุณ ?

สมมุติว่าคุณฝึกจนสามารถรับพลังงานได้ด้วยตัวเองแล้ว, แต่เนื่องจากมันยังไม่มีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่วัดได้โดยตรงว่ามันมีพลังงานแบบไหน จึงทำให้เกิดความสับสนและขัดแย้งเป็นอย่างมากว่าพลังงานแบบไหนส่งผลบวกต่อเรา (ดีต่อเรา) พลังงานแบบส่งผลลบต่อเรา (แย่กับเรา)
ความเข้าใจผิดที่ร้ายแรงที่สุดในการฝึกและจัดการพลังงานละเอียดเหล่านี้ก็คือ ความคิดว่า ❌ ยิ่งแรง = ยิ่งดี ❌
ซึ่งความจริงก็คือ เราก็ไม่รู้ว่าที่แรงคือ พลังงานที่เป็นบวกต่อเรา หรือ เป็นลบต่อเรา (อาจจะพลังงานไม่ดีแรงก็ได้ จริงไหมครับ)
ดังนั้นการทดสอบพลังงานว่าเขากับเราหรือไม่จึงจำเป็นอย่างมาก, ไม่เช่นนั้นคุณก็รับเอาแต่พลังงานไม่ดีเข้าตัว เราเอาพลังงานที่เป็นโทษกับตัวเราเข้ากับตัว การทดสอบพลังงานจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องเรียนรู้จนใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน ถ้าเราคิดจะอยู่ในเส้นทางอภิปรัชญาต่าง ๆ, เห็นด้วยไหมครับ?

อีกปัญหาหนักที่ดราม่าพอ ๆ กัน คือถ้าเราฝึกมาเป็น 10 ปีจนเราแยกแยะได้ระดับหนึ่งแล้วว่า พลังงานชนิดไหนดี ชนิดไหนไม่ดี ไปบอกคนที่ฝึกมา 1-2 ปีว่า ตอนนี้พลังไม่ดี, ของที่ใช้พลังไม่ดี หรือ ของขลังนี้พลังงานไม่ดีนะ ก็มักจะทำให้เกิดเรื่องดราม่าได้เป็นประจำ เนื่องจากเขาเองไม่มีวิธีทดสอบเป็นรูปธรรมทางกายภาพว่ามันดีหรือไม่ดียังไง แถมด้วย โดยทั่วไปแล้วยิ่งละเอียด ยิ่งรับรู้ได้ยากมากขึ้นมาก จนรู้สึกเหมือนว่ามันไม่แรง ยกตัวอย่างเช่น
  -  ก้อนหิน 1 ก้อนหนัก 1 กิโลกรัม
  -  ก้อนกรวดหนัก 1 กิโลกรัม
  -  ทรายหนัก 1 กิโลกรัม
ถ้าเทใส่หัวของเรา อันไหนจะรู้สึกมากสุด ก็ต้องเป็นก้อนหิน 1 กิโลกรัมอย่างแน่นอน ส่วนทราย 1 กิโลกรัมเมื่อเทใส่หัวของเรา แม้จะรู้สึกแต่ก็ไม่รุนแรงเท่ากับก้อนหิน 1 ก้อนที่หนัก 1 กิโลกรัมอย่างแน่นอน, เห็นภาพไหมครับ
พลังงานก็เช่นเดียวกันครับ, ยิ่งละเอียด ยิ่งดี ยิ่งความถี่สูงเท่าไหร่ ยิ่งรับรู้ได้ยาก ทำให้เมื่อฝึกมาใหม่ ๆ เลย ก็มักจะยังรับรู้ไม่ได้ ต้องฝึกกันหลัก 4-5 ปีขึ้นไปถึงจะรับรู้ที่ความถี่สูงหรือละเอียดมาก ๆ ได้
และปัญหาต่อมาก็คือ พลังงานที่มีประโยชน์มักจะมีความถี่สูงมาก ก็เป็นผลให้มีความละเอียดสูงมากตามไปด้วย ส่งผลให้หลายคนเมื่อศึกษาพลังงาน ก็มักจะตัดสินใจศึกษาศาสตร์ที่มีพลังงานลบ หรือ เป็นอันตรายต่อระบบพลังงานของร่างกายของเราแทน เนื่องจากรู้สึกว่ามันแรงดี สัมผัสได้
แม้แต่ของขลังก็ไม่แตกต่างกัน คือ เรามักเลือกของขลังที่ความถี่ต่ำ เนื่องจากเรารู้สึกว่ามันแรงดี สัมผัสได้ชัดเจน แต่จริง ๆ แล้วเมื่อเรารับรู้ได้ละเอียดขึ้น หรือ ทดสอบเป็น เราก็จะพบว่าจริง ๆ มันไม่ใช่พลังงานที่ดี บางอันเป็นพลังงานที่อันตรายต่อสุขภาพและจิตใจอีกด้วย (ในขั้นสูงเราทดสอบได้อีกด้วยว่าพลังงานนั้นมีสีอะไร มีคุณสมบัติอะไร ฯลฯ)

และก็ทำให้ผมตระหนักได้อย่างว่า จริง ๆ วิชาพวกนี้น่าจะเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมากในการดำรงชีวิตของเรา
⁣⁣⁣เนื่องจากจะทำให้ชีวิตของเราหลังจากเรียนไป มีวิธีที่จะทดสอบว่าอะไรดีต่อเรา อะไรส่งผลเสียต่อเรา ดีกว่าหมดเงินไปหลายหมื่น หรือ หลายแสน กับเวลาอีกหลายเดือน หลายปี แต่ก็พบว่าไม่ได้มีประโยชน์อะไร แถมบางอย่างกับส่งผลเสียต่อเราอีก
หรือแม้กระทั้งวิชาต่าง ๆ ที่เราเรียนมา ผู้สอนก็บอกว่าทำแบบนั้นแล้วจะดีแบบนั้น อันนั้นทำแบบนั้นได้ช่วยเรื่องนั้น คำถามคือมันเป็นความจริงไหม? มันส่งผลแบบนั้นต่อเราจริงไหม?
ซึ่งจะดีแค่ไหน ถ้าเรามีวิธีที่จะทดสอบแบบง่าย ๆ ว่า ของกินอะไรดีต่อเรา, ของขลังอะไรดีต่อเรา, อุปกรณ์ต่าง ๆ อะไรดีต่อเรา นั่งตรงไหนดีต่อเรา ซึ่งสามารถทดสอบได้เองทั้งชีวิตของเรา ฯลฯ
มันจะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถทดสอบอาหารเสริม/ของขลัง ว่ามันดีต่อเราจริงไหม แทนที่จะเชื่อตามโฆษณา, ตามอาจารย์บอก, ตามหนังสือทั่วไปเขียน?

ในคอร์สนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการทดสอบพลังงานละเอียด ที่ทำได้ง่าย ๆ แต่ว่าเห็นผลชัดเจนทางกายภาพว่า พลังงานละเอียดแต่ละชนิดส่งผลกระทบกับเราอย่างไร ซึ่งเมื่อนำไปประยุกต์ ก็จะทำให้คุณทราบความจริงหลายอย่าง เช่น
  -  จริง ๆ สีมีผลต่อเราหรือไม่ หรือมีผลอย่างไร ทดสอบอย่างไร
  -  ถ้าสีมีผลและสีที่เป็นบวก/เป็นลบ ของเราคืออะไร ทดสอบอย่างไร
  -  น้ำดื่ม แต่ละยี่ห้อ มีผลกับเราอย่างไร
  -  สารให้ความหวานแต่ละยี่ห้อ มีผลกับเราอย่างไร
  -  อาหาร/ขนม ตัวไหนส่งผลบวก/ลบ ต่อเรา
  -  อาหารเสริม ตัวไหนดี/ไม่ดีกับเรา
  -  สมุนไพร ตัวไหนดี/ไม่ดีกับเรา
  -  ของขลัง ชิ้นไหนใส่แล้วปัง/ชิ้นไหนใส่แล้วซวย
  -  จักระไหนของเรามีปัญหากันแน่
  -  จะแก้ปัญหาจักระที่มีปัญหาอย่างไร
  -  ทดสอบอย่างไรว่าเรากราวด์อยู่หรือยัง
  -  ถ้าไม่กราวด์จะแก้ไขอย่างไร
ที่สำคัญคือ แต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะเป็นการทดสอบเฉพาะคน ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ผมบอกว่า อันนี้ดี หรือ อันนี้ไม่ดี แต่จะเป็นคุณเองที่ทดสอบกับร่างกายของตัวเอง แล้วก็เห็นด้วยคุณเองว่า อันไหนมันดีหรือไม่ดีกับตัวคุณ

คำถามที่มักพบบ่อย

คำถาม:  จำเป็นต้องมีพื้นฐานหรือลงคอร์สอืนมาก่อนหรือไม่
คำตอบ:  ไม่จำเป็น

Recently Viewed Products